ปุ๋ยปาล์มนำ้มัน ซีพีไอ พลัส พิสูจน์แล้ว..กับผลผลิตปาล์ม มากกว่า 6.5 ตัน/ไร่/ปี
ปุ๋ยปาล์มน้ำมัน
สิ่งที่สำคัญต่อการทำสวนปาล์มเป็นอย่างมาก เพราะเมื่ออ้างอิงจากวิชาการแล้ว “น้ำมัน” หรือ “ไขมัน” เป็นสารที่พืชต้องใช้พลังงานในการสร้างสูงกว่าสารจำพวก น้ำตาล และโปรตีน ซึ่งธาตุอาหารที่มีอยู่ในดินนั้นไม่เพียงพอสำหรับการผลิตปาล์มน้ำมันให้ได้ผลผลิตสูง สอดคล้องกับความจริงที่ว่าปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่ผลิต “น้ำมัน” ได้ปริมาณสูงกว่าพืชนิดอื่น จึงต้องการปุ๋ยมากเป็นพิเศษนั่นเอง
เมื่อได้ผลสรุปแล้วว่าปาล์มน้ำมันต้องการปุ๋ยในปริมาณมากเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตและออกผลผลิต ก็ยังมีคำถามต่อไปอีกว่าเกษตรกรควรจะ ใช้ แม่ปุ๋ย หรือ ปุ๋ยสูตร ดีกว่ากัน

ประเด็นคำถามนี้ทาง คุณจุนฮุย แซ่เล้า (คุณเล้า) ผู้จัดการฝ่ายสวน บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ที่มีประสบการณ์ในการทำสวนปาล์มมากกว่า 41 ปี ทั้งในมาเลเซียและเมืองไทย โดยในเมืองไทยนั้นคุณจุนฮุย เริ่มทำสวนปาล์มน้ำมันมาตั้งแต่ปี 2521 นับเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ด้านปาล์มน้ำมันสูงสุดคนหนึ่งของเมืองไทย ได้ให้ความเห็นไว้ดังนี้
“สวนปาล์มของ บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ใช้มาทั้งปุ๋ยสูตรและแม่ปุ๋ย ทั้ง 2 แบบมีข้อดีแตกต่างกันไป เช่น แม่ปุ๋ยดีตรงที่เราสามารถเลือกใส่ได้ตามค่าการวิเคราะห์ใบ แต่ข้อเสียคือต้องแยกใส่ทีละตัวถือว่าใช้เวลามากพอสมควร และสิ่งสำคัญคือธาตุอาหารเสริมบางตัวเกษตรกรรายย่อยไม่สามารถหาซื้อได้เอง ตรงนี้เป็นจุดเล็กๆ ที่สำคัญ เป็นสิ่งที่เราได้ประสบพบเจอจากการที่เราได้พูดคุยกับเกษตรกร
“ส่วนการใส่ปุ๋ยสูตร ในที่นี้เราจะพูดถึงปุ๋ย ซีพีไอ พลัส นะครับ ปุ๋ยตัวนี้จุดเด่น คือ มีการรวมเอาธาตุอาหารที่ต้นปาล์มต้องการ 9 ชนิดมารวมกัน ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะมีการผลิตปุ๋ยสูตรนี้ออกมา มันเกิดจากกระบวนการคิดจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรจริงๆ ผ่านการวิจัยจากความต้องการของต้นปาล์มน้ำมันจริงๆ และทดสอบในสวนปาล์มของ บมจ.ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม เอง
“และอย่างที่กล่าวในข้างต้นว่าธาตุอาหารบางตัวเกษตรกรรายย่อยไม่สามารถหาซื้อเองได้ ซีพีไอ พลัส จึงนำมารวมกันไว้ในถุงเดียวกัน ให้เกษตรกรใช้ได้ทันที ใช้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ใช้เวลาในการใส่ปุ๋ยน้อยลง ลดค่าใช้จ่ายเรื่องแรงงานลงไปได้มาก…นี่คือสิ่งที่ทาง ซีพีไอ อะโกรเทค ได้มองเห็นจริงๆ” คุณเล้า อธิบายเรื่องจุดเด่น/จุดด้อยของปุ๋ยทั้ง 2 แบบ

การดูแล-บริหารจัดการสวนปาล์มน้ำมันของ บมจ.ชุมพรอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน โดย คุณจุนฮุย ใช้ประสบการณ์การทำสวนปาล์มในมาเลเซียมาใช้อย่างเต็มรูปแบบในระยะแรกและค่อยๆ ปรับให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของเมืองไทยขึ้นเรื่อยๆ
คุณจุนฮุย ยังกล่าวอีกว่า การนำวิชาการมาใช้ในสวนปาล์มเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น เพราะช่วงแรกพื้นที่แถบนี้ค่อนข้างแห้งแล้ง แทบไม่มีต้นไม้ ที่ดินทำไร่เลื่อนลอยมาก่อนส่งผลให้หน้าดินมีปัญหา ดังนั้นการแก้ไขอันดับแรกก็คือการปรับปรุงดินด้วยการปลูก ถั่วคลุมหน้าดิน จนเต็มพื้นที่

ถัดมาคือเรื่อง การเก็บเกี่ยวปาล์มที่ไม่สุกหรือดิบเกินไป ปาล์มดิบยังมีแป้งในผลปริมาณมาก แต่มีน้ำมันน้อย ทำให้หีบน้ำมันได้น้อยลงและมีผลต่อการประเมินราคาปาล์มน้ำมันแน่นอน
ที่สำคัญที่สุด คือ การใส่ปุ๋ย แรกๆ ที่นี่ใช้ปุ๋ยสูตร แต่พอปาล์มโตขึ้นและให้ผลิตก็เริ่มหันมาใช้แม่ปุ๋ยและใช้วิธีใส่ปุ๋ยตามผลการตรวจวิเคราะห์ค่าใบ และตามปริมาณผลผลิต ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ บมจ.ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม วิจัยร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
ที่สำคัญต้องใส่ปุ๋ยสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ผลผลิตต่อเนื่อง แม้แต่ช่วงอายุที่ปาล์มยังเล็กยังไม่ให้ผลผลิตก็ต้องใส่ปุ๋ยตามที่เรากำหนดไว้ให้เพื่อให้ต้นปาล์มเจริญเติบโตต่อเนื่องเตรียมพร้อมสำหรับการออกทะลายต่อไป

แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนจากการใช้แม่ปุ๋ยไปใช้ปุ๋ยสูตร ปุ๋ย ซีพีไอ พลัส จาก บริษัท ซีพีไอ อะโกรเทค จำกัด ที่คิดค้นร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งเป็นปุ๋ยที่ได้วิจัยจากความต้องการของต้นปาล์มน้ำมันอ้างอิงผลวิเคราะห์ความเข้มข้นของธาตุอาหารในต้นปาล์ม จาก สถาบันปุ๋ยเคมีนานาชาติ (International Potash Institute, IPI) นำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับข้อมูลมวลชีวภาพและข้อมูลการผลิตทะลายปาล์ม
ผ่านการทดลองใช้งานจริงในสวนปาล์มน้ำมันของ บมจ.ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม มากกว่า 30 ปี ให้ค่าเฉลี่ยผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 2 ตัน/ไร่/ปี มาเป็น 4-6.5 ตัน/ไร่/ปี ในกว่า 2 หมื่นไร่ แสดงให้เห็นว่าเทคนิคที่ใช้มาถูกต้องแล้ว

“ตอนอยู่ที่มาเลเซียผมก็ทำงานด้านปาล์มน้ำมัน ทำทั้งสวน ทั้งแปลงเพาะ กับบริษัทขนาดใหญ่ พอมาอยู่เมืองไทยผมก็มาทำปาล์มน้ำมันอีก ถือว่าบริษัทชุมพรอุตสาหกรรมฯ เป็นรายใหญ่รายแรกๆ ที่มาทำสวนปาล์มที่นี่ ปัจจุบันปาล์มที่ปลูกรุ่นแรกของเราโค่นไปแล้ว ชุดใหม่นี้อายุประมาณ 10 ปี
“หลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จในการทำสวนปาล์ม ก็สนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงปลูกปาล์มน้ำมันมาตลอดและถ่ายทอดความรู้แบบที่เราทำจริงๆ ให้กับเขา ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อก่อนเกษตรกรจะปลูกแบบเลื่อนลอย แรกๆ เขาก็ไม่ยอมปลูก แต่พอเห็นว่าผลตอบแทนดีก็หันมาปลูกปาล์มกันมากขึ้นจนตอนนี้พื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นตลอดเวลา” คุณจุนฮุย เล่าประสบการณ์คร่าวๆ ในเส้นทางสายปาล์มน้ำมันของเขา
นอกจากนี้คุณจุนฮุยถ่ายทอดประประสบการณ์จากการเปลี่ยนปุ๋ยจากแม่ปุ๋ยมาใช้ ปุ๋ย ซีพีไอ พลัส ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในปาล์มน้ำมัน มีทั้งสิ้น 3 สูตร พบว่าผลผลิตยังคงได้ดีต่อเนื่องเหมือนเดิม เพราะในปุ๋ยนี้มีธาตุอาหารหลักที่จำเป็นกับปาล์มน้ำมันถึง 9 ชนิด ซึ่งมากกว่าปุ๋ยสูตรทั่วไปที่มีไม่เกิน 5 ชนิด จึงต้องมีการใส่ปุ๋ยบ่อยขึ้น
ยิ่งเป็นตอนที่ใช้แม่ปุ๋ยที่ต้องแยกกันใส่ถือว่าใช้เวลากับการใส่ปุ๋ยไปมากพอสมควร แม้ว่าจะได้ผลดีได้ปาล์มผลผลิตสูงแต่ก็มีค่าใช้จ่ายเรื่องการจ้างแรงงานเพิ่มเข้ามาอีก
แต่หลังจากที่ใช้ปุ๋ยสูตร ซีพีไอ พลัส ทำให้ใช้เวลาและแรงงานในการจัดการสวนน้อยลง เหมาะกับวิถีเกษตรปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานสวนปาล์มได้ไม่น้อยทีเดียว
ซีพีไอ พลัส คุ้มค่า..เพราะมีธาตุอาหารสำคัญ 9 ชนิด
- N (ไนโตรเจน) : สร้างใบให้เขียว ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต
- P (ฟอสฟอรัส) : ช่วยพัฒนาการรากและต้น เร่งดอก
- K (โพแทสเซียม) : ช่วยการเจริญเติบโต มีส่วนในกลไกการเปิด-ปิดปากใบ
- Ca (แคลเซียม) : ทำงานร่วมกับโบรอน ช่วยให้เซลล์แข็งแรง ช่วยในการผสมเกสร
- Mg (แมกนีเซียม) : เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยสร้างแป้ง โปรตีน และไขมัน
- S (กำมะถัน) : ช่วยสร้างคลอโรฟิลล์ กรดอะมิโน และโปรตีน
- B (โบรอน) : ช่วยในการติดผล และขยายขนาดผล
- Cu (ทองแดง) : ช่วยสร้างคลอโรฟิลล์ และกระตุ้นเอนไซม์ป้องกันโรค
- Zn สังกะสี : ช่วยการสังเคราะห์คาร์โบไฮเดรดและโปรตีน ช่วยสร้างฮอร์โมนออกซิน ซึ่งควบคุมการเจริญเติบโตของปาล์ม
คุณจุนฮุย ได้เสริมประเด็นเรื่องการใส่ปุ๋ยในกองทางเพิ่มเติมว่า การวางกองทางในสวนปาล์ม เป็นวิธีการเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน สร้างพื้นที่ให้มีความชื้นสำหรับใส่ปุ๋ย ช่วยปรับสภาพดินที่เป็นกรดได้ง่าย
ทั้งยังช่วยลดการชะล้างหน้าดิน ลดการถูกชะล้างของปุ๋ย เมื่อใส่ปุ๋ยจึงแนะนำให้ใส่ปุ๋ยในกองทางเพราะตรงนั้นมีทั้งความชื้น มีสภาพ pH เหมาะสมที่จุลินทรีย์จะย่อยสารอาหารจากปุ๋ยให้ต้นปาล์มนำไปใช้
ส่งผลให้สภาพดินดีขึ้น เมื่อดินดีขึ้นก็ได้ผลผลิตสูงขึ้น เพียงแค่วางกองทางในสวนปาล์มเกษตรกรก็ได้ประโยชน์เพิ่มอีกหลายต่อโดยแทบจะไม่ต้องใช้ต้นทุนใดๆ เพิ่มเลยนั่นเอง
ที่มา :
– yangpalm.com
แชร์บทความนี้