การทำสวนปาล์ม ให้ได้ผลผลิตสูง และลดต้นทุน มีปัจจัยอะไรที่ต้องคำนึงถึงบ้าง?
การทำสวนปาล์ม (การปลูกสวนปาล์มน้ำมัน) ที่ดีนั้น ปัจจัยแรกที่เกษตรกรชาวสวนควรคำนึงถึง คือ
– พันธุ์ปาล์มน้ำมัน
– สภาพภูมิอากาศ
– การจัดการสวนปาล์มน้ำมัน
1. พันธุ์ปาล์มน้ำมัน
ปาล์มน้ำมัน เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดี ในเขตที่มีปริมาณน้ำฝนสูง ประมาณ 2,500 – 3,500 มิลลิเมตร/ปี และมีช่วงแล้ง (เดือนที่มีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่า 100 มิลลิเมตร) ไม่เกิน 3 เดือน โดยปริมาณน้ำฝนขนาดนี้หลักๆ จะอยู่ในแถบประเทศ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ คอสตาริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มีการพัฒนาพันธุ์ปาล์มน้ำมันและส่งมาจำหน่ายยังประเทศไทย
แต่เมื่อ พันธุ์ปาล์ม เหล่านี้ ถูกนำมาปลูกในประเทศไทย ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่า และมีช่วงแล้งที่ยาวนานเกินกว่า 3 เดือน ทำให้พันธุ์ปาล์มน้ำมันเมื่อพบกับผลกระทบแล้ง
จะเกิดอาการมีรอบช่อดอกตัวผู้ ขาดคอ ไม่มีช่อดอก ช่อดอกเน่า ขนาดทะลายเล็ก ระบบรากไม่พัฒนา ซึ่งลักษณะต่างๆเหล่านี้ ส่งผลให้ได้ผลผลิตลดลง ผลผลิตไม่ตรงตามลักษณะพันธุ์ของประเทศผู้ผลิต อันเนื่องมาจากความแตกต่างของสภาพแวดล้อม
อาการที่แสดงว่าปาล์มน้ำมันต้นนั้นๆที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของประเทศไทยได้ ดังภาพต่อไปนี้
ดังนั้นเพื่อให้ปาล์มน้ำมันสามารถเจริญเติบโตได้ดีและให้ผลผลิตต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ปาล์มน้ำมันกระทบแล้ง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่แท้จริงของประเทศไทย จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ปาล์มน้ำมันขึ้นมา เพื่อให้ได้พันธุ์ปาล์มน้ำมัน ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของประเทศเราได้อย่างแท้จริงดังภาพด้านล่างนี้
โดยธรรมชาติของปาล์มน้ำมันซึ่งเป็นพืชอายุยืน ต้องปลูกไปกว่าจะได้ล้มก็ 20-25 ปี จึงจะคุ้มกับการลงทุน หากเกษตรกรเลือกพันธุ์ปาล์มที่ไม่ดีมาปลูก ต้องลงทุนมากมายทั้ง ค่าปุ๋ย ค่ายา และอื่นๆ ซึ่งกว่าจะเห็นผลก็ต้องปลูกไปแล้ว 3 ปี จึงจะทราบว่าเป็นพันธุ์ปาล์มนั้นๆเป็นพันธุืปาล์มน้ำมันที่คุ้มกับการลงทุนไปหรือไม่ ดังนั้นจะปลูกปาล์มน้ำมันทั้งที ควรเลือก พันธุ์ปาล์มน้ำมัน ที่ผ่านการรับรองและมีใบรับรองพันธุ์ ก็จะทำให้อุ่นใจ มั่นใจ และสบายใจได้ตลอดไป
2. สภาพภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศ คือ ปัจจัยแรกที่ชาวสวนปาล์มน้ำมันควรทราบถึงลักษณะภูมิอากาศในสวนปาล์มน้ำมันของต้นว่าเป็นอย่างไร
โดยปาล์มน้ำมันนั้นจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพภูมิอากาศร้อนชื้น ซึ่งมีประกอบด้วยหัวข้อต่างๆ ดังนี้ ปริมาณน้ำฝน ปริมาณแสงแดด อุณหภูมิ ลม และความชื้นสัมพัทธ์ เป็นต้น
2.1) ปริมาณน้ำฝน
ปริมาณน้ำฝนและการกระจายตัวของฝน เป็นปัจจัยหลักในการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน ปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสมกับปาล์มน้ำมันโดยเฉลี่ยปีละอย่างน้อย ประมาณ 2,000-3,000 มม. ขึ้นไป โดยที่จะต้องไม่มีสภาพแห้งแล้งนานเกินไป ปริมาณการตกของฝนในรอบปี ต้องดีและสม่ำเสมอ เดือนที่มีฝนตกน้อยที่สุด ไม่ควรต่ำกว่า 100 มม. และไม่ควรมีเดือนขาดน้ำนานเกิน 4 เดือน
หากพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันมีปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอสำหรับการเติบโตของปาล์มน้ำมัน ปาล์มที่ปลูกจะให้ผลผลิตต่ำ และหากปาล์มน้ำมันมีสภาพขาดน้ำในรอบปีมาก จะทำให้จำนวนทะลาย น้ำหนักทะลาย และเปอร์เซนต์น้ำมันลดลง ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ปริมาณฝนในฤดูฝนจึงมีเพียงพอสำหรับการปลูกปาล์มน้ำมัน ส่วนในช่วงฤดูแล้งหากฝนทิ้งช่วง สามารถแก้ไขได้โดยติดตั้งระบบน้ำให้กับปาล์มในสวนของท่าน
2.2) ปริมาณแสงแดด
ปริมาณแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญอันดับสองในการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน โดยปกติแล้ว ปาล์มน้ำมันนั้นต้องการแสงแดดมากกว่า 5 ชม./วัน โดยใช้กระบวนการสังเคราะห์แสง เพื่อไปสร้างผลผลิตและส่วนอื่นๆของต้น หากปาล์มน้ำมันได้รับแสงน้อย จะทำให้การเจริญเติบโตลดลง การสร้างดอกตัวเมียน้อยลง ซึ่งมีผลทำให้มีผลผลิตปาล์มน้อยลง ปัญหาเรื่องของแสงนั้นจะมีปัญหาโดยเฉพาะกับปาล์มน้ำมันที่มีอายุปลูกไปแล้วมากกว่า 10 ปี เนื่องจากปาล์มที่ปลูกชิดกันนั้นจะมีการบังแสงของทางใบระหว่างต้น
สำหรับในประเทศไทยนั้น จัดว่าเป็นประเทศที่มีแสงแดดเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน
2.3) อุณหภูมิ
– อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 22-32 °C ซึ่งเป็นช่วงอุณหภูมิปกติของเขตภูมิอากาศแบบร้อนชื้น
– อุณหภูมิที่สูงขึ้น จะมีผลกระทบกับปาล์มน้ำมันน้อยกว่าอุณหภูมิต่ำ
– ในสภาพอุณหภูมิสูงจะมีผลต่อการคายน้ำของปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ปาล์มขาดน้ำ แต่ในสภาพอุณหภูมิต่ำจะมีผลต่อการเจริญเติบโต
2.4) ลม / ความชื้นสัมพัทธ์
พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ต้องไม่มีลมพายุที่รุนแรง เนื่องจากลำต้นของปาล์มไม่แข็งแรง
ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยในรอบปี
(เปอร์เซ็นต์)
|
การเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน
|
น้อยกว่า 77
|
น้อย
|
78 – 79
|
ปานกลาง
|
80 – 85
|
ดี
|
3. การจัดการสวนปาล์มน้ำมัน
ปัจจัยหลักที่มีผลต่อการเติบโตของปาล์มน้ำมัน นอกจากปาล์มน้ำมันเจริญเติบโตได้ดีในสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นนั้น การจัดการสวนปาล์มน้ำมันก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยการจัดการสวนปาล์มน้ำมันมีปัจจัยประกอบดังนี้ การเตรียมพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน, การวางผังปลูกปาล์มน้ำมัน, วิธีการปลูกปาล์มน้ำมัน, การให้ปุ๋ยปาล์มน้ำมัน โดยแต่ละปัจจัยมีรายละเอียดดังนี้
3.1 การเตรียมพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน
3.1.1) การบุกเบิกพื้นที่
เป็นการโค่นทำลายต้นไม้ที่ไม่ต้องการหรือพืชอื่นออกไปจากพื้นที่หลังจากนั้นควรไถปรับสภาพดินและปรับพื้นที่
อ่านบทความ : วิธีล้มต้นปาล์มน้ำมัน เพื่อปลูกทดแทน
3.1.2) การสร้างถนนในแปลงปลูกและร่องระบายน้ำในแปลงปลูก
• เพื่อใช้สำหรับขนส่งวัสดุทางการเกษตร เช่น ต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมัน ปุ๋ยเคมี สารกำจัดวัชพืช รวมทั้งขนส่งผลผลิตทะลายปาล์มสดเพื่อจำหน่าย
• การทำร่องระบายน้ำควรทำควบคู่ไปพร้อมกับการทำถนน โดยมีลักษณะเป็นรูปตัววี
3.1.3) การปรับพื้นที่สำหรับปลูกปาล์มน้ำมัน
• การปรับพื้นที่ราบ
ในกรณีของพื้นที่ราบ เมื่อมีการกำจัดวัชพืชแล้ว ควรไถปรับสภาพพื้นที่โดยใช้ไถแบบ3 จานและไถแบบ7 จาน
• การปรับพื้นที่ลาดชัน
ในกรณีของพื้นที่ลาดชันหรือพื้นที่เชิงเขาควรมีการทำขั้นบันได เพื่อลดการ พังทลาย ของหน้าดินและสะดวกกับการจัดการ
• การปรับพื้นที่ลุ่มและมีน้ำท่วมถึง
ในกรณีของพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่ม มีน้ำขัง จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจะต้องยกร่องและขุดคูระบายน้ำ โดยให้เนินดินบนสันร่องที่จะปลูกปาล์มน้ำมันอยู่สูงกว่าระดับน้ำที่ท่วมขัง พร้อมทั้งขุดร่องหรือคูระบายน้ำออกไปจากแปลงปลูก เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นปาล์มน้ำมัน
3.2 การวางผังปลูกปาล์มน้ำมัน
ปาล์มน้ำมันเจริญเติบโตได้ดีในสภาพภูมิอากาศร้อนชื้น โดยมีปัจจัยประกอบดังนี้
3.3 วิธีการปลูกปาล์มน้ำมัน
3.3.1) การเตรียมหลุมปลูก เตรียมระยะปลูกปาล์มน้ํามัน ขุดหลุมปลูกขนาด 50x50x50 cm. ใส่ปุ๋ยหินฟอสเฟต (0-3-0) อัตรา250-500 กรัมต่อหลุม ผสมคลุกเคล้ากับ ดินบน
3.3.2) วิธีปลูก ตัดถุงพลาสติกออก อย่าให้ดินแตก นำต้นกล้าปาล์มน้ำมันวางใส่หลุมและกลบให้แน่น (กรณีมีลมแรงควรปักไม้ผูกเชือกกันลมโยก)
อ่านบทความ : วิธีปลูกปาล์มน้ำมัน ปลูกอย่างไร? ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
คุณสมบัติของดิน
สมบัติ
|
เหมาะสมต่อปาล์ม
|
ค่อนข้างเหมาะสมต่อปาล์ม
|
ไม่เหมาะสมต่อปาล์ม
|
ภูมิประเทศความลาดชัน
|
< 12 องศา
|
12-20 องศา
|
> 20 องศา
|
ความลึกของดินถึงชั้นดานหรือระดับ
น้ำใต้ดิน
|
ดินร่วนถึงเหนียว
|
ดินร่วนปนทราย
|
< 40 เซนติเมตร
|
PH
|
4.0-6.0
|
3.2-4.0
|
< 3.2
|
ความหนาของชั้นดินอินทรีย์
|
0-0.6 ม.
|
0.6-1.5 ม.
|
> 1.5 เมตร
|
ความสามารถในการซึมน้ำของดิน
|
ปานกลาง
|
เร็ว หรือช้า
|
เร็วมาก หรือช้ามาก
|
3.4 การให้ปุ๋ย
ปริมาณธาตุอาหารที่พืชต้องการ = ส่วนที่สร้างต้น + ส่วนที่สร้างผลผลิต
ปริมาณธาตุอาหารส่วนที่สร้างต้น
อัตราปุ๋ย, กิโลกรัมต่อต้นต่อปี
|
|||||||
แอมโมเนียมซัลเฟต
21-0-0
|
หินฟอสเฟต
0-3-0
|
โพแทสเซียมคลอไรด์
0-0-60
|
โดโลไมท์
30%CaO+ 20%MgO
|
รวม
|
|||
3.8
|
1.1
|
2.1
|
2.5
|
9.6
|
ปริมาณธาตุอาหารส่วนที่สร้างต้น
น้ำหนักทะลายสด
|
อัตราปุ๋ย, กิโลกรัมต่อต้นต่อปี
|
||||||
ตัน/ไร่
|
กก./ต้น
|
แอมโมเนียมซัลเฟต
21-0-0
|
หินฟอสเฟต
0-3-0
|
โพแทสเซียมคลอไรด์
0-0-60
|
โดโลไมท์
30%CaO+ 20%MgO
|
รวม
|
|
0.5
|
022.7
|
4.2
|
1.2
|
2.3
|
2.6
|
10.3
|
|
1.0
|
045.5
|
4.5
|
1.3
|
2.5
|
2.7
|
11.0
|
|
1.5
|
068.2
|
4.8
|
1.5
|
2.6
|
2.8
|
11.7
|
|
2.0
|
090.9
|
5.1
|
1.6
|
2.8
|
2.9
|
12.3
|
|
2.5
|
113.6
|
5.4
|
1.7
|
3.0
|
2.9
|
13.0
|
|
3.0
|
136.4
|
5.7
|
1.8
|
3.1
|
3.0
|
13.7
|
|
3.5
|
159.1
|
6.1
|
1.9
|
3.3
|
3.1
|
14.4
|
|
4.0
|
181.8
|
6.4
|
2.0
|
3.5
|
3.2
|
15.1
|
|
4.5
|
204.5
|
6.7
|
2.1
|
3.7
|
3.3
|
15.8
|
|
5.0
|
227.3
|
7.0
|
2.3
|
3.8
|
3.4
|
16.5
|
การใส่ปุ๋ยในกองทางใบปาล์มซึ่งมีจุลิทรีย์อยู่จะช่วยตรึงปุ๋ยไม่ให้ถูกน้ำชะ ล้างไป และยังช่วยรักษากิจกรรมของจุลินทรีย์ในดินให้ช่วยย่อยทางใบและสลายเป็น อินทรียวัตถุบำรุงดินได้เร็วขึ้น
อ่านบทความ : สูตรใส่ปุ๋ยปาล์มน้ำมัน และการใส่ปุ๋ยปาล์มน้ำมันให้ได้ผลผลิตสูง และลดต้นทุน
อ่านบทความ : กองทางใบ คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร?
แชร์บทความนี้