ข่าวปาล์ม – สศก. ออกมาตรการ ดันราคาปาล์ม เป้า 3 บาท

ข่าวปาล์ม, ราคาปาล์ม


ข่าวปาล์ม ฐานเศรษฐกิจ ออนไลน์ 13 มีนาคม 2562 – กนป. เพิ่มยาแรง! ดันราคาปาล์มขยับ 3 บาท

สศก. เผย ปาล์มทะลัก ป.ต.ท. โดดอุ้ม 1 แสนตัน ส่งออก – กฟผ. เพิ่มกำลังการผลิตจาก 1,000 ตันต่อวัน ปรับเป็น 1,500 ตัน พ่วงเงินค้างท่อ กรอบวงเงินเดิม จ่ายชาวสวนไร่ละ 1,500 บาท ต้องจ่ายเพิ่ม 9.9 หมื่นครัวเรือน คาดส่ง ครม. เห็นชอบ 19 มี.ค. นี้

วันที่ 13 มี.ค. 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวจริยา สุทธิไชยา เลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยหลังจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ 1/2562
มีสาระสำคัญ 2 เรื่องด้วยกัน เพื่อให้ราคาผลปาล์มขยับไปที่เป้าหมาย 3 บาทต่อกิโลกรัม ในอัตราเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% ได้แก่
  1. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่มกำลังการผลิตจาก 1,000 ตัน/วัน ปรับเพิ่มเป็น 1,500 ตันต่อวัน ในโครงการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตกระแสไฟฟ้า จำนวน 1.6 แสนตัน โดยจะเปิดคลังเพิ่มที่ จ.สุราษฎร์ธานี รับมอบน้ำมัน รฟฟ.บางปะกง ที่ยังค้างส่ง 1.2 แสนตัน และจัดสภาพคล่องทางการเงินให้ได้ ณ จุดส่งมอบ ที่คลังสุราษฎร์ธานี
  2. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) จะช่วยซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่งออก จำนวน 1 แสนตัน โดยจะส่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในวันที่ 19 มี.ค. นี้
“นอกจากนี้ ยังมีโครงการจ่ายเงินเข้มแข็งชาวสวนปาล์ม โดยให้ความช่วยเหลือตามพื้นที่ปลูกจริง ในอัตราไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ วงเงินรวมทั้งสิ้นกว่า 3,458 ล้านบาท จำนวน 1.5 แสนครัวเรือน พื้นที่ไม่เกิน 2.25 ล้านไร่ ซี่งจากการดำเนินงาน ทางกรมส่งเสริมการเกษตร ระบุว่า มีเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันที่มีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์-เงื่อนไขในโครงการ สมัครเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 2.49 แสนครัวเรือน ซึ่งมากกว่าเป้าหมายโครงการเดิม (1.5 แสนครัวเรือน) จำนวน 9.98 หมื่นครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่ 8.99 แสนไร่ คิดเป็นวงเงินรวมจำนวนกว่า 1,348 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวขอใช้จากกรอบวงเงินเดิม”
น.ส. จริยา สุทธิไชยา
เลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)
ขอบคุณภาพจาก : oae.go.th

นางสาวจริยา กล่าวว่า ปี 2562 สศก. ประมาณการ ณ วันที่ 12 มี.ค. 2562 คาดว่า มีเนื้อที่ให้ผล 5.45 ล้านไร่ ผลผลิต 16.734 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 3.01 ล้านตัน (อัตราสกัดน้ำมัน 18%) และผลผลิตต่อไร่ 3,071 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากเนื้อที่ให้ผล 5.09 ล้านไร่ ผลผลิต 15.389 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3,024 กิโลกรัม ในปี 2561 ร้อยละ 7.07 ร้อยละ 8.74 และร้อยละ 1.55 ตามลำดับ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา รายได้จากการปลูกปาล์มน้ำมันโดยเปรียบเทียบสูงกว่าพืชทางเลือกอื่น ส่งผลให้เกษตรกรหันมาปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้น รวมทั้งการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในช่วงปี 2551-2555 ต้นปาล์มเริ่มให้ผลมากขึ้นประกอบกับในช่วงปี 2559-2560 ภูมิอากาศเอื้ออำนวยมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่วนในปี 2562 ไตรมาสที่ 1 มีปริมาณ 4.752 ล้านตัน คิดเป็น 28.40% ของผลผลิตทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2561 ปรากฎว่า ผลผลิตเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 18.74% ซึ่งผลผลิตจะเริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน มี.ค. และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือน พ.ค. เช่นเดียวกับไตรมาสที่ 2 คาดว่า ผลผลิตจะเพิ่มขึ้น 26.01%

กลุ่ม ปตท.
ขอบคุณภาพจาก : wikimedia.org
ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทีบบกับปีก่อน เนื่องจาก “ประเทศอินเดีย” นำเข้าปีละ 10.5 ล้านตัน ขึ้นภาษีการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 44 และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์จาก 40% เป็น 55% ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2561, “สหภาพยุโรป” หรือ อียู นำเข้าปีละ 6.5 ล้านตัน และร้อยละ 35 หรือประมาณ 2.3 ล้านตัน เป็นการนำเข้ามาผลิตเป็นพลังงานทดแทน ขณะนี้ อยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์การใช้พลังงานทดแทนใหม่ โดยมีเป้าหมายในการปรับลดการใช้น้ำมันปาล์มลงและหันไปใช้เชื้อเพลิงชีวภาพใหม่ทดแทนการใช้น้ำมันปาล์มมากขึ้น, “สหรัฐอเมริกา” ใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดของผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซลจากอินโดนีเซียและอาร์เจนตินา ในอัตราร้อยละ 60.44-276.65 ตั้งแต่ เม.ย. 2561 และการปรับลดภาษีส่งออกน้ำมันปาล์มดิบของ “อินโดนีเซีย” และ “มาเลเซีย” ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบโลกมีแนวโน้มลดลง
สำหรับปัญหาอุปสรรคการขับเคลื่อนมาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าค่อนข้างล่าช้ากว่ากรอบระยะเวลาที่กำหนด เพราะ
  1. ผู้ประกอบการขาดความมั่นใจในช่วงเริ่มต้นมาตรการ เนื่องจากเงื่อนไขของ กฟผ. ที่จ่ายค่าน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ผู้ขายที่กิโลกรัมละ 18 บาท ณ จุดส่งมอบท่าเทียบเรือโรงไฟฟ้าบางประกง โดยผู้ขายต้องรับภาระในส่วนค่าใช้จ่ายในการขนส่ง การเก็บรักษา และรักษาคุณภาพของน้ำมันปาล์มดิบเอง ทำให้ต้องขยายระยะเวลาการรับสมัครออกไปหลายครั้ง จึงได้ปริมาณครบ 1.6 แสนตัน
  2. ผู้ประสงค์ขายน้ำมันปาล์มดิบบางรายไม่พร้อมปฎิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาการซื้อขาย เช่น การวางหลักประกันการทำสัญญาและเงื่อนไขตามมติ ครม. ที่กำหนดให้ผู้ขายน้ำมันปาล์มดิบต้องรับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร เนื่องจากในการค้าปกติ โรงงานรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและไม่ได้ขึ้นทะเบียน ประกอบกับกรมส่งเสริมยังออกสมุดทะเบียนให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนยังไม่ครบทุกราย

ทั้งนี้ กฟผ. กำหนดรับมอบน้ำมันปาล์มดิบเดือนละ 3 หมื่นตัน (เที่ยงละ 2,000 ตัน โดยได้รับวันเว้นวัน) เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระไฟฟ้าวันละ 1,000 ตัน โดยเริ่มรับมอบและใช้น้ำมันปาล์มดิบตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 2562 จะรับมอบและใช้ครบ 1.6 แสนตัน ประมาณวันที่ 20 ก.ค. 2562 ซึ่งล่าช้ากว่ากรอบระยะเวลาการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. 2562 ที่เสนอ ครม. ไว้ ทำให้ผู้ขายมีภาระในการเก็บสต็อก ส่งผลทำให้ปัจจุบันปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในระบบที่มีมากกว่า 3.7 แสนตัน มากกว่าระดับสต็อกปกติในประเทศที่ไม่ควรเกิน 2.5 แสนตัน

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ขอบคุณภาพจาก : egat.co.th

“กฟผ. ได้ทำสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 31 ราย เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยกำหนดการรับมอบน้ำมันปาล์มดิบงวดสุดท้ายในวันที่ 20 ก.ค. 2562 ซึ่งผู้ส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบงวดสุดท้ายต้องส่งเอกสารหลักฐานการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรภายใน 60 วันหลังจากการส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบ คือ ไม่เกินวันที่ 18 ก.ย. นี้ เพื่อขอเบิกจ่ายเงินค่าน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือร้อยละ 10 ของมูลค่าน้ำมันปาล์มดิบจาก กฟผ. ทั้งนี้ ระยะเวลาดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานจนถึงการเบิกจ่ายเงินชดเชยจากงบประมาณงบกลางให้แก่ กฟผ. ครบ 525 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ต.ค. หรือ พ.ย. 2562”

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อน