พ.ร.บ.ปาล์ม – เกษตรกรค้าน..เกรงรัฐสอดไส้แก้ “กองทุน”

พ.ร.บ.ปาล์ม

พ.ร.บ.ปาล์ม
เกษตรกรค้าน พ.ร.บ.ปาล์ม..เกรงรัฐสอดไส้แก้ “กองทุน”


ประชาชาติธุรกิจ, วันที่ 18 มกราคม 2561 – 07:00 น. – บอร์ดปาล์มน้ำมัน มีมติส่งออกปาล์มน้ำมันดิบในสต็อก 1 แสนตัน เร่งใช้ในประเทศเพิ่มขึ้น 1 แสนตัน รวม 2 แสนตัน ภายใน 2 เดือน หวังดันราคาสูงขึ้น กิโลกรัมละ

สภาเกษตรกร เดือดค้าน 4 ประเด็น ตีกลับ พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันฯ ฉบับกฤษฎีกา อ้างสอดไส้แก้สาระสำคัญจากร่างเดิมที่ผ่าน ครม. ทั้งปรับการตั้ง กนป.และปรับที่มาเงินกองทุน หวั่นไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาปาล์มทั้งระบบ

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดรับความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. … ฉบับที่คณะกรรมการกฤษฎีกาปรับปรุง ระหว่างวันที่ 3-31 มกราคม 2561

ทะลาย, ปาล์มน้ำมัน
ทะลาย ปาล์มน้ำมัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2561 ได้มีการจัดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. … ฉบับที่คณะกรรมการกฤษฎีกาปรับปรุง ที่ห้องประชุมปกาสัย ศาลากลางจังหวัดกระบี่ โดยมี พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมสังเกตการณ์

นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานคณะกรรมการด้านปาล์มน้ำมันและพืชพลังงาน สภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เกษตรกรไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันฯ ฉบับของคณะกรรมการกฤษฎีกา เนื่องจากสาระสำคัญและหลักการเปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมที่สภาเกษตรกรฯ ได้ร่วมกันร่างกับทางสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรและผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลายด้าน ซึ่งทำให้ไม่ตอบโจทย์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์ม ดังนั้น ที่ประชุมเกษตรกรมีมติไม่รับร่าง ร่าง พ.ร.บ. ฉบับของกฤษฎีกา และขอให้นำร่างเดิมที่ผ่าน ครม. แล้วเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แทน

โดยประเด็นคัดค้าน ประกอบด้วย 1.ร่าง พ.ร.บ. ฉบับของกฤษฎีกาไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่าง พ.ร.บ. ฉบับที่ผ่านมติ ครม. 2.ร่าง พ.ร.บ. ฉบับของกฤษฎีกา จะทำลายและบั่นทอนอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เพราะไม่สามารถมีการต่อยอดพัฒนาได้ 3.ร่าง พ.ร.บ. ฉบับของกฤษฎีกา ได้ตัดเงินกองทุนออกจากเดิมที่ทุกภาคส่วนต้องจ่ายเงินกองทุน เหลือเพียงแค่การพึ่งพาเงินอุดหนุนจากรัฐ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบได้ 4.ร่าง พ.ร.บ. ฉบับของกฤษฎีกา จะทำให้คณะกรรมการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม (กนป.) มีอำนาจลดลง ไม่นับรวมโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้ง ๆ ที่เกษตรกรต้องการเพียงแค่โครงสร้างราคาที่เป็นธรรม มีการต่อยอดได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และต้องการ พ.ร.บ.ที่พัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ร่างกฎหมายที่กฤษฎีกาไม่ตอบโจทย์นี้

“การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ให้มาจากการแต่งตั้งของรัฐมนตรี จากเดิมมาจากการคัดเลือก (โหวต) อาจจะมีผลเชื่อมโยงกับมาตราอื่น ๆ ที่ กนป.จะต้องเป็นผู้กำหนด เช่น มาตรา 29 กำหนดให้ กนป.เป็นผู้ออกประกาศหลักเกณฑ์กำหนดบทบาทหน้าที่ และหลักการรับซื้อปาล์มของผู้ประกอบการ หากกรรมการมาจากการแต่งตั้งย่อมจะกำหนดอย่างไรก็ได้ ซึ่งอาจจะขัดกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่ทำให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบ

ประเด็นการแก้ไขเงินกองทุนปาล์มน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมัน ซึ่งเดิมกำหนดให้ทุกภาคส่วน เช่น โรงสกัด โรงกลั่น ต้องส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อนำไปใช้เป็นเงินในสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม แต่ฉบับใหม่กลับกำหนดให้เหลือเพียงเงินที่ได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณประจำปีของภาครัฐ ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยากที่จะได้รับเงินสนับสนุนอย่างเต็มประสิทธิภาพ”


ที่มา : (prachachat.net) ประชาชาติธุรกิจ ออนไลน์ , วันที่ 18 มกราคม 2561 – 07:00 น.

แชร์บทความนี้

เพิ่มเราเป็นเพื่อน