ข่าวปาล์มน้ำมัน – กรมการค้าภายในบูรณาการแก้ ราคาปาล์ม ตกต่ำ

กรมการค้าภายในระบุ ราคาปาล์มตกต่ำ เพราะผลผลิตเกินความต้องการ

ราคาปาล์ม สำนักข่าวไทย 13 ส.ค. 2560  – นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากข้อร้องเรียนเรื่องราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ กระทรวงพาณิชย์ได้ตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าเป็นการฉวยโอกาสของกลุ่มพ่อค้าในการรับซื้อผลผลิตในราคาที่ถูกเพื่อให้ได้กำไรมากแต่อย่างใด ส่วนราคาผลปาล์มน้ำมันที่ราคามีแนวโน้มลดลงก็เป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากโรงกลั่นและผู้ผลิตไบโอดีเซล มีสต็อกน้ำมันปาล์มจำนวนมาก ประกอบกับภาวะการค้าน้ำมันพืชปาล์ม(น้ำมันขวด) ไม่คล่องตัว แม้ราคาจำหน่ายลดลงเหลือขวดละ 34 – 36 บาท ตามราคาวัตถุดิบ โรงกลั่นจึงไม่เร่งรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ขณะเดียวกันโรงสกัดฯ ซึ่งมีสต็อคคงเหลือจำนวนมาก ต้องระบายน้ำมันปาล์มออกจากสต็อคโดยจำหน่ายในราคาที่ต่ำลง จึงเป็นผลกระทบทำให้การรับซื้อผลปาล์มน้ำมันในราคาที่ต่ำลงตามไปด้วย

ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่ผลผลิตปาล์มน้ำมัน เข้าสู่โรงสกัดในปี 2560 มีปริมาณมากเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2559 คือ

  • เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.70
  • เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.36
  • เดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.12

ซึ่งปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นนี้ มีผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มที่โรงสกัดผลิตได้ในแต่ละเดือนมีมากเกินกว่าความต้องการใช้ของโรงกลั่นและผู้ผลิตไบโอดีเซล ทำให้มีสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือเป็นจำนวนมาก

กรมการค้าภายในเร่งบูรณาการทุกหน่วยงานออกมาตรการช่วยเหลือ แก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ

ราคาปาล์ม

  อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยให้คณะทำงานตรวจสอบสต็อคน้ำมันปาล์มคงเหลือระดับจังหวัด ซึ่งมีพาณิชย์จังหวัดเป็นประธาน ออกตรวจสอบปริมาณน้ำมันปาล์มคงเหลือของโรงกลั่น โรงสกัด ผู้ผลิตไบโอดีเซล คลังรับฝาก ผู้ซื้อน้ำมันพืชปาล์มเพื่อจำหน่ายและผู้ซื้อเพื่อใช้น้ำมันปาล์ม พร้อมกันทุกจังหวัดในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนสิ้นเดือน เป็นประจำทุกเดือน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ซึ่งพบว่าน้ำมันปาล์มมีสต็อคคงเหลือเพิ่มมากขึ้นนับแต่เดือนเม.ย. 60 สอดคล้องกับผลผลิตปาล์มน้ำมันที่เข้าสู่โรงสกัด จึงประสานกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ให้ปรับสัดส่วนการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซล (B100) ผสมในน้ำมันดีเซล จาก B5 เป็น B7 ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 60

  นอกจากนี้ ได้จัดประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแบบยั่งยืน โดยได้ขอสรุปร่วมกันแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ ดังนี้

  • เร่งพัฒนาคุณภาพปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ให้มีการซื้อขายผลปาล์มน้ำมันตามคุณภาพเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ซึ่งจะสร้างความเป็นธรรมและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
  • ตรวจสอบการรับซื้อ เข้มงวดกวดขันการติดป้ายแสดงราคา โดยขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตพิจารณาดำเนินการตั้งคณะทำงานเพื่อกำกับดูแล
  • กำหนดมาตรการเพื่อไม่ให้นำผลปาล์มที่ไม่ได้คุณภาพกลับเข้าสู่โรงสกัดได้อีก
  • ขอความร่วมมือสภาเกษตรกรจังหวัด ชี้แจงทำความเข้าใจเกษตรกรในพื้นที่เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพปาล์มน้ำมัน มีการดูแลรักษาสวนปาล์มเพิ่มผลผลิตต่อไร่จาก 2.5 ตัน เป็น 3 ตัน และการตัดปาล์มสุก จะทำให้ได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันเพิ่มขึ้น เช่น จาก 16-17 % เป็น 18 % จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นทันที เนื่องจาก 1 เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 300 บาทต่อตัน รวมแล้วจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มถึง 3,350 บาท/ไร่
  • มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เร่งรัดการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การปฎิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม โดยเฉพาะด้านมาตรฐานให้เป็นมาตรบังคับ และเร่งเสนอร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันฯ มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย
  • ในด้านการบริหารระดับสต็อคน้ำมันปาล์มคงเหลือ ได้ขอให้กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ประสานผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ให้ปรับเพิ่มสำรองไบโอดีเซล (B100) มากขึ้น จากปกติอยู่ที่ 13 ล้านลิตร หรือ 11,050 ตัน เป็น 68 ล้านลิตร ในเดือน มิ.ย. 90 ล้านลิตร ในเดือน ก.ค. และ 120 ล้านลิตร หรือ 102,000 ตันในเดือน ส.ค. ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณน้ำมันปาล์มในระบบลดน้อยลง
  • และประสานให้กรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดในการนำเข้า/นำผ่านหรือผ่านแดนน้ำมันปาล์ม และร่วมประชุมคณะทำงานการแก้ไขปัญหาการนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม ภายใต้ กนป. ซึ่งมีผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานฯ คณะทำงานมีมติให้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องอีกด้วย

ที่มา : สำนักข่าวไทย – ข่าวเศรษฐกิจ 13 สิงหาคม 2560

แชร์บทความนี้

เพิ่มเราเป็นเพื่อน