รากปาล์ม ระบบรากของปาล์มน้ำมัน เป็นอย่างไร? มีกี่แบบ?
รากปาล์ม
รากปาล์ม (Oil palm root) เกิดขึ้นจากตรงฐานโคนของลำต้น รากปาล์มเป็นระบบรากฝอย (Fibrous root system) รากของปาล์มน้ำมันส่วนใหญ่จะกระจายอยู่บริเวณผิวดินลึกไม่เกิน 45 เซนติเมตร มีความหนาแน่นมากในบริเวณโคน และในระยะ 1.5 ถึง 2.0 เมตรจากลำต้น แต่ในกรณีที่ดินมีการถ่ายเทอากาศดีและระดับน้ำใต้ดินไม่สูงอย่างถาวร อาจจะมีรากบางส่วนเจริญลึกลงถึง 5 เมตร ซึ่งจะช่วยยึดลำต้นไว้ไม่ให้ล้มง่าย
รากอ่อนจะงอกออกจากเมล็ดเป็นอันดับแรก เมื่อต้นกล้าอายุได้ประมาณ 2-4 เดือน รากอ่อนจะหยุดเจริญเติบโตและหายไป ระบบรากจริงจะงอกจากฐานส่วนลำต้นที่เจริญเติบโตเต็มที่
หน้าที่สำคัญของรากปาล์ม
- ช่วยยึดลำต้น พยุงลำต้น ให้ตั้งตรงติดกับพื้นดิน
- ดูดซับน้ำ ดูดซับธาตุอาหาร จากพื้นดินเพื่อนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆของปาล์ม
- เป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนที่สำคัญต่อปาล์ม หลายชนิด
ชุดของรากปาล์ม
จะประกอบด้วยรากจำนวน 4 ชุด
- รากชุดที่ 1 (Primary root) จะอยู่ในระดับแนวนอนยาว 3-4 เมตร จากลำต้น และในแนวดิ่งลึก 1-2 เมตร
- รากชุดที่ 2 (Secondary root)
- รากชุดที่ 3 (Tertiary root)
- รากชุดที่ 4 (Quaternary Root) ทำหน้าที่ดูดธาตุอาหารเนื่องจากธาตุชนิดนี้ไม่มีลิกนินเหมือนรากชนิดอื่นที่มีสารนี้
รากทั้ง 4 ชุด จะเกิดเรียงตามลำดับ 1 ถึง 4
โดยทั่วไปรากจะเกิดมากและสามารถดูดซับน้ำและธาตุอาหารที่ปาล์มน้ำมันต้องการนำไปใช้ประโยชน์ได้ที่ระดับความลึก 30-50 เซนติเมตร
การแพร่กระจายของรากปาล์ม
การแพร่กระจายของรากปาล์ม จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น สภาพของดินปริมาณของธาตุอาหาร, ความตื่นของระดับน้ำใต้ดิน เป็นต้น จากการวิจัยพบว่า รากของปาล์มจะแพร่กระจายไปยังบริเวณดินที่มีความหนาแน่นของธาตุอาหาร
นอกจากนี้ยังพบ รากพิเศษ หรือ รากอากาศ ตรงบริเวณโคนต้นทำหน้าที่ถ่ายเทอากาศระหว่างรากและบรรยากาศ ช่วยดูดความชื้นจากอากาศ เข้าสู่ลำต้น
และในส่วนของเนื้อเยื่อ Hypodermis ปาล์มน้ำมันไม่มีขนอ่อน นอกจากนี้ Hydathodes ที่เกิดจากเนื้อเยื่อชั้น Cortex ของราก จะโผล่เหนือพื้นดินเพื่อช่วยในการหายใจในกรณีที่เกิดน้ำท่วม
ศูนย์การเรียนรู้ปาล์มน้ำมันซีพีไอ ได้ทำการทดสอบโดยการขุดลงไปใต้ดิน เพื่อศึกษาเส้นทางการแพร่กระจายของรากปาล์ม (เชือกสีแดงล้อมรอบ)
ระบบรากของต้นปาล์มน้ำมัน
ระบบรากของต้นปาล์มน้ำมัน (Oil palm root system) จากการศึกษาระบบรากของต้นปาล์มน้ำมัน พบว่าสามารถแบ่งออกได้เป็น 8 ประเภท ซึ่งมีทั้งรากที่ตอบสนองต่อแรงโน้วถ่วงของโลก (orthogravitropic) คือมีทิศทางไปตามความลึกของดิน (positive gravitropism) หรือชี้ขึ้นด้านบนผิวดิน (negative gravitropism) หรือไม่ตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วงของโลก (diagravitropic) คือ มีทิศทางแผ่ออกด้านข้าง พบว่าตำแหน่งและขนาดของ สาร “สตาโตลิธส์” (statoliths) ในเซลล์ราก จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของราก ซึ่งสารนี้มีหน้าที่ในการเก็บสำรองแป้งจึงทำให้มีน้ำหนักมาก
การแบ่งประเภทของรากปาล์มได้ 8 แบบ
- R1 VD Primary root with downward vertical growt (ชุดที่ 1 ชี้ลง)
- R1 H Primary root with horizontal growth (ชุดที่ 1 แผ่ออกด้านข้าง)
- R2 VD Secondary roots with downward vertical growth (ชุดที่ 2 ชี้ลง)
- R2 VU Secondary roots with upward vertical growth (ชุดที่ 2 ชี้ขึ้น)
- R2 H Secondary roots with general horizontal growth (ชุดที่ 2 แผ่ออกด้านข้าง)
- sR3 superficial tertiary roots (ชุดที่ 3 ต่อกับชุดที่ 2 ผิวดิน)
- dR3 deep lying tertiary roots (ชุดที่ 3 ต่อกับชุดที่ 2 แนวลึก)
- R4 quaternary roots (ชุดที่ 4 คล้ายชุดที่ 3 แนวลึก)
- รากแบบ R1 VD ที่โตแบบแผ่ลึกลงดินมีความยาวเฉลี่ย 5.3 เมตร และสูงสุด 6 เมตร
- รากแบบ R1 H ที่แผ่ออกด้านข้างมีความยาวเฉลี่ย 6.3 เมตร และสูงสุดถึง 25 เมตร
- รากแบบ sR3, dR3 และ R4 พบว่า ไม่เป็นเนื้อไม้ (non-woody) เช่น รากแบบอื่นซึ่งน่าจะเป็นรากส่วนที่ดูดซับน้ำและธาตุอาหารได้มากที่สุด
- รากที่พบมากบริเวณผิวดินคือ รากแบบ sR3 และ R2 VU ซึ่งจะเป็นรากฝอยขนาดเล็กๆ
ตำแหน่งและขนาดของ สาร “สตาโตลิธส์” ในเซลล์ราก จะเป็นตัวกำหนดการเติบโตของรากว่าจะไปในทิศทางใด รากที่มี สาร “สตาโตลิธส์” ขนาดเล็กจะไม่ตอบสนองต่อแรงโน้วถ่วงของโลก
ที่มา :
– Jourdan, C., N.Michaux-Ferrere and G. Perabal. 2000. Root system architecture and gravitropism in the oil palm. Annals of Botany 85: 861-868.
– arda.or.th
– oard8.go.th
แชร์บทความนี้