นกแสก
กำจัดหนูในสวนปาล์มน้ำมัน ด้วย “นกแสก” วิธีที่ประหยัด ปลอดภัย และได้ผลดี

นกแสก หรือ Barn owl (ภาษาอังกฤษ) เป็นนกประจำถิ่นของประเทศไทยซึ่งมีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ และเป็นนกกลางคืนที่อาศัยอยู่ใกล้ชุมชน ปกติใช้โพรงไม้และช่องใต้หลังคาเป็นรังวางไข่ กินหนูเป็นอาหาร มีพฤติกรรมล่าเหยื่อในที่โล่ง ทุ่งหญ้า ไร่นา และสวนปาล์มน้ำมัน มีการผสมพันธุ์ วางไข่ และเลี้ยงลูกในช่วงเดือนกันยายน-กุมภาพันธุ์ เลี้ยงลูก 2 ครอกติดต่อกัน จำนวนไข่รังละ 5-7 ฟอง จำนวนต่ำสุด 2 ฟอง สูงสุด 15 ฟอง เพศเมียจะฟักไข่ประมาณ 30 วันใช้เวลาฟักไข่ 18 ชั่วโมง/วัน ระยะแม่นกฟักไข่และช่วงที่ลูกยังเล็กๆ พ่อนกจะออกล่าเหยื่อนำมาป้อนให้แม่และลูกนกทุกวัน

จากผลวิจัยส่วนประกอบของเศษอาหารที่นกแสกสำรอกออกมาในบริเวณที่นกเกาะพักนอน ทำให้พบว่านกแสกในสวนปาล์มน้ำมันนั้นกินหนูป่ามาเลย์เป็นอาหารเกือบ 100% โดยนกแสกกินหนูเฉลี่ยวันละ 1-2 ตัว หรือประมาณ 350-700 ตัว/ปี ซึ่งหนูจำนวนนี้ถ้าปล่อยให้กัดกินผลปาล์มน้ำมันจะทำความเสียหายต่อผลผลิตปี ละ 1.1-2.5 ตัน/ไร่/ปี คิดเป็นมูลค่าความสูญเสียประมาณ 5,500-12,500 บาท/ไร่/ปี (ที่ราคาทะลายปาล์มสด 5 บาท/กก.) ขณะเดียวกันเกษตรกรยังต้องเสียเงินซื้อสารเคมีและจ้างแรงงานวางยากำจัดหนู ซึ่งทำให้มีต้นทุนสูงขึ้นอีก 700-1,400 บาท/ไร่/ปี ซีพีไอ อะโกรเทค จึงเริ่มประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทราบถึง วิธีกำจัดหนูสวนปาล์ม ด้วยนกแสกอย่างถูกวิธี

ลักษณะของนกแสกที่สมบูรณ์
วิธีการขยายพันธุ์นกแสก
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า นกแสกสามารถช่วยกำจัดหนูในสวนปาล์ม อย่างได้ผล เป็นวิธีที่ประหยัด ปลอดภัยต่อตัวเราและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเมื่อเราต้องการขยายพันธุ์นกแสก จำเป็นต้องเข้าใจลักษณะการดำเนินชีวิตของนกแสกเบื้องต้น
นกแสกเป็นนกที่หากินในเวลากลางคืน โดยมากพบในถิ่นที่ใกล้กับชุมชนของมนุษย์ โดยจะอาศัยอยู่ตามสิ่งก่อสร้างที่มีความสงบ เช่น หลังคาโบสถ์ในวัดวาต่าง ๆ หรือบ้านร้าง ซอกมุมตึกหรือโพรงไม้ เป็นนกที่จัดทำรังเองไม่เป็น ฉะนั้นหากมีความต้องการเพาะเลี้ยงนกแสกภายในสวนปาล์มน้ำมัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการจัดทำรังเทียมติดตั้งภายในสวนปาล์มของเรา เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยให้กับนกแสก และให้นกได้ขยายพันธุ์
1. ลักษณะและรูปแบบของรังเทียม
1.1 รังเทียมที่ทำจากโครงเหล็ก

โครงสร้างของรังทำจาก เหล็กฉากหนา 4 มิลลิเมตร โดยรังมีขนาด 50 x 80 x 50 เซนติเมตร ความสูงของโครงหลังคา 20 เซนติเมตร ทรงจั่ว ผนังข้างปิดกั้นด้วยไม้อัดหนา 6 – 10 มิลลิเมตร หรือแผ่นสมาร์ทบอร์ด เจาะยึดด้วยตะปูเกลียวเพื่อป้องกันฝาข้างหลุด หลังคามุงด้วยสังกะสีแผ่นเรียบ เจาะประตูเข้า-ออก ขนาด 20 x 20 เซนติเมตร เสาที่ใช้สำหรับติดตั้งรัง ควรเป็นเสาเหล็กกลมอย่างหนาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ความสูงของเสาเมื่อติดตั้งแล้วประมาณ 2.5 – 3.0 เมตรหรือใช้เสาคอนกรีต 3 x 3 นิ้ว แทนเสาเหล็ก
1.2 รังเทียมที่ทำจากถังน้ำมัน 200 ลิตร

ควรมีการเลือกตัวถังที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ชำรุด ล้างทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอก เจาะปากทางเข้า-ออกขนาด 20×20 เซนติเมตร บริเวณฝา ถัง เสาที่ใช้สำหรับติดตั้งรัง ควรเป็นเสาเหล็กกลมอย่างหนาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ความสูงของเสาเมื่อติดตั้งแล้วประมาณ 2.5 – 3.0 เมตร หรือใช้เสาคอนกรีต 3 x 3 นิ้ว แทนเสาเหล็ก พื้นของรังควรมีกระเบื้องแผ่นเรียบหรือแผ่นสมาร์ทบอร์ดปูพื้นถัง
1.3 รังเทียมที่ทำจากตู้เย็นเก่า
ควรมีการเลือกตัวตู้เย็นที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ชำรุด ล้างทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอก ยึดประตูเปิดปิดให้แน่น เจาะปากทางเข้า-ออกขนาด 20 x 20 เซนติเมตร บริเวณประตูเปิดปิด เสาที่ใช้สำหรับติดตั้งรัง ควรเป็นเสาเหล็กกลมอย่างหนาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ความสูงของเสาเมื่อติดตั้งแล้วประมาณ 2.5 – 3.0 เมตร หรือใช้เสาคอนกรีต 3 x 3 นิ้ว แทนเสาเหล็ก
2. วิธีการติดตั้งรังเทียม
2.1 บริเวณที่ติดตั้งรังควรห่างจากถนนเข้าไปในแปลงไม่ต่ำกว่า 20 เมตร เพื่อให้ห่างจากการรบกวนจากคนและสะดวกในการสำรวจรังและสำรวจประชากรของนก
2.2 ในการติดตั้งเสาตั้งรัง ควรขุดหลุมให้ลึก 30 – 50 เซนติเมตร ตั้งรังให้ตรงหันปากทางเข้า-ออกรังไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้ เทปูนภายในหลุมเพื่อความแข็งแรง
3. วิธีการเลี้ยงลูกนกก่อนการนำปล่อย
3.1 การเก็บลูกนกจากรังเทียมเข้ามาเลี้ยง ควรเก็บลูกนกที่มีอายุ 3-4 สัปดาห์ หลังฟักออกจากใข่
3.2 นำเข้ามาเลี้ยงอนุบาลในกรงย่อย กรงละ 4 – 5 ตัว เพื่อลดความหนาแน่นและการได้รับอาหารที่ทั่วถึง
3.3 ให้อาหารที่เป็นซากของหนูป่ามาเลย์ วันละ 1 ตัวต่อนก 1 ตัว (หากขาดแคลนหนูให้ใช้หมูเนื้อแดงแทนได้บ้างในบางครั้ง)
3.4 เมื่อลูกนกมีอายุ 7 – 8 สัปดาห์ นำเข้าเลี้ยงในกรงสำหรับฝึกการล่าเหยื่อ (ภายในกรงให้ปล่อยหนูเป็นไว้)
4. ข้อควรปฎิบัติสำหรับเกษตรกร
4.1 จัดสร้างรังตามรูปแบบและขนาด พร้อมทั้งการติดตั้งที่ถูกต้อง
4.2 จัดเตรียมอาหารสำรองสำหรับลูกนกเป็นเวลาอย่างน้อย 10-15 วัน (ซากหนูหรือหมูเนื้อแดง)
4.3 เมื่อมารับลูกนกแล้วควรนำลูกนกเข้าปล่อยในรังเทียมที่เตรียมไว้ทันที่ แต่ยังต้องปิดประตูรังไว้ก่อนอย่างน้อย 2-3 วัน (เพื่อไห้ลูกนกมีการปรับตัว) ค่อยเปิดประตูรัง
4.4 ให้อาหารลูกนกทุกวันหรือจนกว่าอาหารที่นำไปให้ลูกนกมีเหลือค้าง หากลูกนกไม่กลับมากินอาหารแสดงว่าล่าเหยื่อเองได้แล้ว
4.5 ตรวจสอบการเข้าใช้รังเทียม ศัตรูของลูกนกและการรบกวนของมนุษย์
4.6 งดการใช้ยาเบื่อหนูภายในสวนปาล์มน้ำมันเด็ดขาด เพราะเมื่อนกไปกินหนูที่กินยาเบื่อมา จะทำให้นกตายไปด้วย
บางอ้อ – วิธีกำจัด “หนู” ในสวนปาล์ม
ช่อง 7 เจาะประเด็น-ช่วงอนุวัติจัดให้ – “ภารกิจนกแสกล่าหนู”
ช่อง3 เพื่อคู่คิด – “นกแสก” กำจัดหนู ช่วยเพิ่มผลผลิตธุรกิจสวนปาล์ม
รับชมสาระความรู้ด้านปาล์มน้ำมันเพิ่มเติม ได้ที่ :