การย้ายต้นกล้า, ย้ายปลูก, ต้นปาล์ม, ปลูกปาล์ม, ต้นกล้าปาล์ม
เคล็ดลับการย้ายต้นกล้า และดูแลรักษาต้นกล้าปาล์ม ช่วงย้ายปลูก

การย้ายต้นกล้า และดูแลรักษาต้นกล้าปาล์ม ช่วงย้ายปลูก

การย้ายต้นกล้า เกษตรกรชาวสวนปาล์มหลายท่านที่เคยเข้าไปซื้อกล้าปาล์มจากแหล่งจำหน่าย และบรรทุกต้นกล้าปาล์มกลับมาปลูกเอง แล้วต้องเผชิญกับกับสารพันปัญหาที่ทำให้ต้นกล้าของท่านเสียหายตั้งแต่ก่อนปลูก จนไปถึงลงปลูกไปไม่กี่วัน…วันนี้ ซีพีไอ มีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้ท่าน ได้รับต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพ  และเผยวิธีการดูแลรักษาต้นกล้าให้ถูกวิธี จะช่วยป้องกันปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้น ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้

1. ตรวจสอบจำนวนและความสมบูรณ์ของต้นกล้า
โดยตรวจนับจำนวนกับทางเจ้าหน้าที่ก่อนขนขึ้นรถ  หากไม่ครบหรือพบลักษณะต้นผิดปกติ ต้องรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่คัดออกทันที

2. ตัดปลายใบต้นกล้าที่สูงมากกว่า 150 ซม. ออกไป
ถ้าความสูงมากกว่า 150 เซนติเมตร  เสนอให้ตัดส่วนปลายใบตรงกลาง 2-3 ใบ ที่สูงมากกว่า 150 เซนติเมตร ออกไป  เพื่อลดการคายน้ำและไม่ให้ยอดหักในกรณีขนย้าย

ตัดปลายใบต้นกล้าปาล์ม
ตัดปลายใบต้นกล้าที่มีความสูงเกิน 15 ซม.

3. ใช้ตาข่ายพรางแสง(ซาแรน) คลุมต้นกล้า ขณะขนย้าย
เพื่อป้องกันไม่ให้ปลายใบโดนลมที่จะส่งผลให้ปลายใบแห้ง

4. วางเรียงแถวให้เป็นระเบียบ รดน้ำให้ชุ่ม
วางเป็นแถวให้สามารถนับจำนวนได้ และระหว่างแถวให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ 60 – 80  เซนติเมตร ในแถวสามารถวางถุงชิดได้ (การวางในที่ร่มจะช่วยลดการคายน้ำได้)
การให้น้ำโดยใช้สายยางเดินรดหรือแบบหัวสปริงเกอร์ ให้น้ำ เช้า-เย็น  อย่างน้อย  1.5 ลิตร/ต้น/ครั้ง  ถ้ามีฝนตกก็ให้สังเกตุดูดินในถุงเป็นหลัก
ต้นกล้าที่วางชิดกันเกินไปจะส่งผลให้อากาศไม่ถ่ายเท  การให้น้ำไม่ทั่วถึงจะทำให้ใบแห้งและเกิดเชื้อราตามมา

5. สังเกตความชื้นของดินหลังย้ายปลูก
ถ้ามีความชื้นน้อย ควรมีการให้น้ำหลังปลูก 2-3 วัน/ครั้ง  หรือจนกว่าฝนจะตก อย่างไรก็ตามอากาศที่แห้ง  ความร้อนและลม  จะส่งผลให้การคายน้ำเพิ่มขึ้น  ควรสังเกตุดูความชื้นและลักษณะของต้นกล้าอย่างใกล้ชิด ในช่วงเดือนแรกนับจากวันย้ายปลูก

6. คลุมโคนต้นเพื่อรักษาความชื้นในดิน
การหาเศษวัสดุมาคลุมรอบโคน จะช่วยรักษาความชื้นหน้าดินได้
หากเป็นไปได้ ควรนำทะลายเปล่าหรือเศษวัสดุอื่น คลุมรอบโคนต้นเพื่อรักษาความชื้นและป้องกันวัชพืช

7. ตรวจสอบการเกิดโรคและแมลงศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอ

ด้วงกุหลาบ การป้องกันกำจัด ใช้สารฆ่าแมลงประเภท carbaryI (Sevin 85% WP) อัตรา 40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร  หรือ carbosulfan (Posse 20% EC) อัตรา 40 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 7 – 10 วัน ในตอนเย็นทั้งใบและบริเวณโคนต้น

ด้วงกุหลาบ
ลักษณะการทำลายของด้วงกุหลาบ

 

ด้วงแรด มีหลายวิธีในการกำจัด  ยกตัวอย่างโดยใช้สารฆ่าแมลง carbofuran (Furadan 3 % G) อัตรา 200 กรัมต่อต้น  ผสมทรายใส่รอบยอดอ่อน

ด้วงแรด
ลักษณะการทำลายของด้วงแรด

 

หนู ควรใช้วิธีการป้องกันกำจัดโดยวิธีผสมผสาน  ดังนี้
ช่วงย้ายปลูกควรใช้ตาข่ายหุ้มรอบโคนต้นปาล์ม  เพื่อชะลอหรือขัดขวางไม่ให้หนูกัดต้นปาล์มได้สะดวก, การล้อมตี, การดัก  โดยใช้กรงดักและกับดักชนิดต่างๆ หมั่นถางหญ้ารอบต้นปาล์ม หรือแหล่งอาศัยบริเวณพื้นที่โดยรอบ  เพื่อไม่ให้เป็นที่หลบกำบังและเป็นแหล่งขยายพันธุ์

หนูสวนปาล์ม
ลักษณะการทำลายของหนู

 

โรคจากเชื้อรา Curvularia  การขยายของโรคขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศที่มีความชื้นสูง  เช่น อากาศปิด,  ฝนตกต่อเนื่องมากกว่า 7 วัน,   การระบายอากาศภายในแปลงไม่ดี เป็นต้น
อาการของโรคนี้เกิดจากเชื้อรา Curvularia  oryzae จะไม่มีรุนแรงถึงขั้นทำให้ต้นกล้าปาล์มตาย  แต่จะมีผลต่อการเจริญเติบโตในช่วง  3  เดือนแรกหลังพบการระบาด  และจะหายไปเองเมื่ออายุ 3 – 6 เดือน  โดยให้สังเกตุดูใบปาล์มที่ขึ้นมาใหม่จะมีจุดน้อยลงจนกระทั่งไม่มีรอยดังกล่าว

โรคใบจุด
ลักษณะของโรค

 

แชร์บทความนี้

เพิ่มเราเป็นเพื่อน